สรุปลูกเล่นใหม่ใน iOS 9
งาน WWDC 15 ปีนี้ ทาง Apple ก็ทำการเปิดตัว iOS 9 กันตามคาด ซึ่งใน iOS 9 นี้ ทาง Apple ไม่ได้เน้นลูกเล่นใหม่ๆ มากเหมือน iOS เวอร์ชั่นที่ผ่านๆ มา แต่เป็นการพัฒนา iOS ที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้น
ลูกเล่นหรือความสามารถเด่นๆ ใหม่นี้มีอะไรบ้าง ทางเวปได้ทำการสรุปมาให้แล้วดังนี้ครับ
หน้าจอหลัก iOS 9
– มีแอป Wallet เพิ่มเข้ามาและชัดๆ คือมีวอลเปเปอร์ใหม่
– เปลี่ยนฟอนท์ใหม่
2. Multitasking แบบใหม่
เมื่อกดปุ่ม home 2 ครั้งต่อกันจะเจอหน้าตาแบบนี้ จากนั้นสไลด์ขึ้นด้านบนเพื่อปิดแอป
3. ตั้งค่ากล้องถ่ายวีดีโอ
เลือกความละเอียดของวีดีโอได้ว่าจะถ่ายแบบไหน ทั้งวีดีโอธรรมดาหรือแบบ Slo-mo
โหมดประหยัดพลังงาน Battery Low Power Mode
หากแบตเหลือน้อยให้เปิดโหมดนี้เพื่อจะใช้เครื่องได้นานขึ้น เพราะโหมดนี้จะไปปิดฟีเจอร์อย่าง Backgroud app refresh ลงและลดความเร็วพวกระบบเครือข่าย ทำให้กินแบตน้อยลง Apple บอกว่าโหมดนี้จะช่วยยืดแบตให้ยาวนานกว่าเดิมได้ 3 ชม.
หลังเปิด Low Power Mode ที่สัญลักษณ์แบตจะเปลี่ยนเป็นสีเหลือง
เพิ่มแอพ News เข้ามาเพื่อการติดตามอ่านข่าวสารในโลกออนไลน์ได้สะดวกยิ่งขึ้น
แอพ Notes ถูกพัมนาขึ้นอย่างมาก สามารถทำ Checklist, ใส่รูปภาพ, แผนที่ หรือแม้แต่ใช้นิ้ววาดรูปใส่เข้าไปใน Note ก็ได้
แอพ Maps เพิ่มข้อมูลด้านระบบขนส่งสาธารณะและสถานที่ใกล้เคียงตำแหน่งที่เราอยู่ ทีนี้เวลาถามทาง ก็สามารถเลือกได้ว่าจะเดินทางด้วยอะไรเช่น เดิน รถเมล์ หรือรถส่วนตัว
เปลี่ยนชื่อแอพ Passbooks เป็น Wallet เพิ่มความสามารถในการเก็บบัตรสมาชิกร้านค้าต่างๆ ไว้ในนี้ได้ และใช้งานกับร้านค้าที่รองรับได้เลยโดยไม่ต้องหยิบกระเป๋าตังหรือบัตรตัวจริง เพียงแค่ใช้ iPhone แปะแทนเท่านั้น
สำหรับ iPad สามารถใช้งาน 2 แอพพร้อมกันโดยแบ่ง 2 หน้าจอได้แล้ว
นอกจากแบ่ง 2 หน้าจอใน iPad แล้ว ก็ยังเพิ่มความสามารถแสดงหน้าต่างเล่นวีดีโอหรือ FaceTime ได้จากทุกแอพด้วย
Siri ที่ฉลาดขึ้น สามารถสั่งการให้ค้นข้อมูลในเครื่องได้ เช่นค้นหารูปที่ถ่ายในวันที่เราต้องการ และสามารถเดาแอพหรือคนที่เราต้องการติดต่อได้จากข้อความที่เข้ามาหาเราล่าสุด
ส่วนอื่นๆ ที่ปรับปรุงได้แก่
- เพิ่มประสิทธิภาพให้เครื่องลื่นขึ้น เร็วขึ้น
- แบตทนขึ้น
- ไฟล์อัพเดทขนาดเล็กลงกว่าเดิมถึงเกือบ 3 เท่า ทำให้อัพเดทได้ง่าย ไฟล์ขนาด 1.3 GB จาก 4.58 GB ใน iOS 8
- ตั้ง Passcode ยาวเป็น 6 หลักได้แล้ว เพื่อความปลอดภัยที่สูงขึ้น
อุปกรณ์ที่รองรับ
- iPhone ตั้งแต่รุ่น 4s ขึ้นไป
- iPad ตั้งแต่ iPad 2 ขึ้นไป
- iPad mini ได้ทุกรุ่น
- iPod touch ตั้งแต่ Gen 5 ขึ้นไป